หอมแบ่ง
หอม หรือ Shallot ผัก พื้นบ้านที่เราแสนจะคุ้นเคย เราจะเจอต้นหอมได้บ่อยๆทั้งในไข่เจียว ไข่ตุ๋น ในน้ำแกงจืด หรือแม้แต่ในก๋วยเตี๋ยวหรือเมนูยำต่างๆ ล้วนต้องใส่ต้นหอมทั้งนั้นค่ะ เด็กมักจะเขี่ยต้นหอมทิ้ง เพราะดูแล้วชิ้นเล็กๆเขียวแกมขาว ดูไม่ค่อยจะเด่นและมีประโยชน์เท่าไร ทั้งรสชาติก็เผ็ดร้อนและมีกลิ่นฉุนอีกด้วย แต่ต้นหอมนี้เอง ที่มีคุณค่าอาหารหลายชนิด เช่น แคลเซียมและฟอสฟอรัส ในสัดส่วนที่เหมาะสมแก่ร่างกาย ทั้งยังมีเบต้าแคโรทีน และสารพวกฟลาโวนอยด์บางชนิด เช่น เควอทิซีน และสไปริโอไซด์ ที่เป็นเกราะสำคัญในการป้องกันมะเร็งที่เราพบในไวน์แดง
คุณประโยชน์ ต้นหอมแม้จะมีกลิ่นฉุน แต่รสเผ็ดร้อนของต้นหอมก็แกล้มอาหารจีน แก้เลี่ยนได้เป็นอย่างดี จะสังเกตุว่าบนโต๊ะจีนมักนิยมทานต้นหอมจิ้มมัสตาร์ด ให้รสชาติที่เข้มขึ้นอีกทั้งความฉุนของต้นหอมเมื่อนำไปบุบแล้วพอกตรงที่ถูก แมลง กัดต่อย ก็แก้ปวดได้ชะงัด แถมยังแก้อาการเป็นหวัด คัดจมูก เมื่อบุบต้นหอมดม ทำให้จมูกโล่งได้นะคะ เมื่อบริโภคต้นหอมสดๆ ยังได้เบต้าแคโรทีน มากถึง 76.30 ไมโครกรัม วิตามินซีสด 22 มิลลิกรัม แคลเซียม 47 กรัม และฟอสฟอรัสถึง 33 กรัมต่อต้นหอมที่บริโภค 100 กรัม ต้นหอมยังช่วยลดคลอเลสเตอรอลในเลือด ควบคุมความดันโลหิตสูง และป้องกันหลอดเลือดหัวใจอุดตันอีกด้วย
การปลูก การเพาะปลูกต้นหอมนั้นทำได้ 2 วิธี คือ ใช้หัวปลูก หรือใช้เมล็ดหว่าน แต่การใช้เมล็ดจะประหยัดกว่า ใช้เวลาในการปลูก 45 วัน แต่ที่นิยมปลูกจะใช้หัวปลูกเพราะระยะเวลาการเก็บเกี่ยวจะใช้เวลาประมาณ 30-32 วันต้องรดน้ำทั้งเช้าเย็น จนเมื่อต้นเริ่มมีใบยื่นยาว ลดน้ำลงเหลือเพียงวันละครั้ง เคล็ดลับปลูกต้นหอมให้งามอยู่ที่การคลุมดินให้คงความชื้นไว้ แต่ระบายน้ำได้ดี โดยการนำเอาฟางแห้ง หญ้าแห้ง เปลือกถั่วลิสง หรือแกลบดิน คลุมหน้าดินไว้ ต้นหอมโตเต็มที่สามารถนำมาใช้งานได้ สูงประมาณ 1 ฟุตกว่าๆ ก็ถอนมาได้เลยค่ะ ส่วนแมลงศัตรูตัวร้ายของต้นหอมคือ เพลี้ยไฟ ใช้แลนเนท 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ 10 ลิตร แล้วฉีดพ่น 7-10 วันครั้ง เพื่อป้องกัน หากเกิดเพลี้ยไฟ ก็ฉีดพ่น 3-4 วันครั้งหอมแบ่งเท่าที่บ้านผมปลูกนะจะมี 3 สายพันธ์ คือ1.พันธ์ที่มาจากนครพนม2.พันธ์ที่มาจากเชียงใหม่ (หอมเหนือ)3.พันธ์ที่มาอินโดนิเชียลักษณะทั้ง 3 สายพันธ์นี้จะชอบฤดูการปลูกที่แตกต่างกัน
พันธ์ที่มาจากนครพนมจะมีความทนทานต่อหน้าฝนพันธ์ที่มาจากเชียงใหม่ --จะให้ผลผลิตมากในช่วงหน้าหนาว
พันธ์ที่มาอินโดนิเชีย--พันธ์นี้จะพิเศษกว่าเพื่อนทนได้ทาน ต้นใหญ่ใบหนาทนต่อโรค และสภาพอากาศ แต่ข้อเสียกลิ่นค่อนข้างแรงกว่า 2 สายพันธ์ที่กว่ามา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น